ประวัติคาเซมิโร่ ชายผู้เปลี่ยนแปลงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประวัติคาเซมิโร่ หนึ่งในกองกลางตัวรับแห่งยุค ชายผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงแผงมิดฟิลด์ของทัพปีศาจแดง ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่คาเซมิโร่ ย้ายมาร่วมทัพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ผู้คนต่างมองว่าเขาอายุเยอะมากเกินไป ไม่เหมาะกับลีกสุดโหดแห่งนี้ แต่เขากลับใช้เวลาเพียงไม่นาน กองกลางตัวรับแห่งยุคจัดการขันแนวรับและนำพาพลพรรคปีศาจแดงขยับขึ้นสู่ทีมหัวตารางได้อีกครั้ง หลังจากที่ในปีที่ผ่านมานั้น ผลงานของทีม ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก 

ประวัติคาเซมิโร่

ข้อมูลส่วนตัวของ คาเซมิโร่

ชื่อเต็ม : การ์ลอส เอ็นริก คาเซมิโร่ ( Carlos Henrique Casemiro )

เกิด : 23 กุมภาพันธ์ 1992, เซา โชเซ่ โดส กัมโปส, บราซิล

อายุ : 30 ปี

ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร

ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับ

สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประวัติการเล่นในระดับสโมสรที่ผ่านมาของ คาเซมิโร่

ฤดูกาล 2010 – 2013 เซา เปาโล ลงเล่น 62 นัด ยิง 6 ประตู

ฤดูกาล 2013 – 2022 เรอัล มาดริด ลงเล่น 221 นัด ยิง 24 ประตู

ฤดูกาล 2022 – ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเล่น 38 นัด ยิง 5 ประตู

จุดเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนังของ คาเซมิโร่

ประวัติคาเซมิโร่

คาเซมิโร่ เขาเกิดมาในย่านเซา โชเซ่ โดส กัมโปส ประเทศบราซิล เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็กที่เล่นฟุตบอลเพียงเพราะสนุกสนานกับเพื่อน โดยจุดเริ่มต้นในการเป็นนักฟุตบอลของคาเซมิโร่ เกิดขึ้นในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาเริ่มต้นมากับระบบเยาวชนของ เซา เปาโล สโมสรฟุตบอลชื่อดังของประเทศบราซิล ตัวของคาเซมิโร่ฉายแววของการเป็นผู้นำมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขารับบทสวมปลอกแขนกัปตันทีมตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี เท่านั้น

ประวัติคาเซมิโร่

ก้าวแรกบนสังเวียน คาเซมิโร่ ลงเล่นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพกับทีมชุดใหญ่ นัดแรกอย่างเป็นทางการ ในเกมที่ เซา เปาโล พบกับซานโตส แต่การเดบิวต์นัดแรกของเขา ไม่สวยงามเท่าไรนัก เนื่องจาก เซา เปาโล เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ ซานโตส ไปนั้นเอง แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเขาในการก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เขาจัดการเบิกสกอร์แรกกับทีมชุดใหญ่ในนัดที่ เสมอกับ ครูเซยโร่ 2 ประตูต่อ 2

ประวัติคาเซมิโร่

เริ่มฉายแววความเก่ง หลังจากนั้นเขาก็ทำผลงานได้ดีมาโดยตลอด จนทำให้ไปสะดุดแมวมองจากทีมดังแดนกระทิงดุ เรอัล มาดริด ที่ชอบส่งแมวมองมาดูฟอร์มจากนักเตะแดนละตินอเมริกา แต่ถึงกระนั้น เรอัล มาดริด ที่ถูกใจฟอร์มของกองกลางรายนี้ ไม่ได้ตัดสินใจซื้อเขาในทันทีที่พบเจอ แต่ใช้วิธียืมตัวคาเซมิโ้ร่ จาก เซา เปาโล มาให้เล่นในทีมชุดสำรองของ เรอัล มาดริด เสียก่อน จนโอกาสในทีมชุดใหญ่ของเขากับ เรอัล มาดริด มาถึง วันที่ 20 เมษายน ปี 2013 เขาลงสนามในเกมที่ เรอัล มาดริด เอาชนะ เรอัล เบติส ไป 3 ประตูต่อ 1 ทำให้ราชันชุดขาว ตัดสินใจคว้าตัวกองกลางตัวรับรายนี้มาแบบถาวร ในเดือน มิถุนายน ปีเดียวกัน

ประวัติคาเซมิโร่

บรรรเลงแข้ง ณ แดนฝอยทอง ในช่วงซัมเมอร์ของฤดูกาล 2014 นั้น เรอัล มาดริด ตัดสินใจปล่อยยืมตัว คาเซมิโร่ ให้ทีม เอฟซี ปอโต้ ทีมจากลีกสูงสุดของประเทศโปรตุเกสไปใช้งานใน 1 ฤดูกาล ซึ่งกองกลางขาโหดรายนี้สามารถเป็นแกนหลักในแดนกลางให้กับทีม โดยเขาลงเล่นมากถึง 41 นัดรวมทุกรายการ พร้อมกับเบิกสกอร์ให้ทีมถึง 4 ประตู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อนาคตของเขากับ เรอัล มาดริด ดูดีขึ้นเท่าไร หลังจากกลับมาจากการยืมตัวกับ เอฟซี ปอร์โต้ ในยุคของกุนซือมาดเข้มอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ เขาเป็นเพียงตัวสำรองและอะไหล่ของทีมเท่านั้น

ประวัติคาเซมิโร่

ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงหัวเรือใหญ่ภายในทีมจาก ราฟาเอล เบนิเตซ มาเป็น ซีเนดีน ซีดาน คาเซมิโร่ก็สามารถเบียดขึ้นมาเป็นตัวจริงให้กับทีมอย่างรวดเร็ว พร้อมพาราชันชุดขาว เถลิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก บัลลังก์เจ้ายุโรปมาครองได้อีกสมัยในฤดูกาลดังกล่าว หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้กองกลางตัวรับรายนี้ปักหลักในแดนกลางของทีมมาตลอด พร้อมพา เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัย พวงกับแชมป์อื่นอีกเป็นกอบ เป็นกำ

ประวัติคาเซมิโร่

ถ้วยสุดท้ายที่ ซานติอาโก้ เบร์นาบิว ในปี 2022 เขาพาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ พวงด้วยตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมมาครอง และมีข่าวว่าคาเซมิโร่นั้นขยายสัญญากับเรอัล มาดริด ต่อออกไปจนถึง ปี 2025 ก็ตาม แต่นั้นคงเป็นภาพสุดท้ายที่เขาทิ้งเอาไว้ในการสวมชุดของ ราชัน ชุดขาว เพราะเมื่อคาเซมิโร่ตัดสินใจอย่างฟ้าแลบ เก็บข้าว เก็บของ ย้ายข้ามฟากมายังเกาะอังกฤษ พร้อมเปิดตัวกับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวรวม 70 ล้านปอนด์ เพื่อมาเสริมแดนกลางให้กับทัพปีศาจแดง กลับไปโลดแล่นในแบบที่เคยเป็นอีกครั้ง

คาเซมิโร่ กับการรับใช้ทีมชาติบราซิล

ประวัติคาเซมิโร่

การรับใช้ทัพเซเลเซา คาเซมิโร่เริ่มต้นรับใช้ชาติตั้งแต่อายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งเขาพาทัพแซมบ้าเข้าชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี พร้อมทั้งต่อยอดในการพาบราซิลเถลิงแชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และแชมป์ทวีปอเมริกาใต้รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในปีเดียวกันนั้นเอง หลังจากโชว์ฟอร์มกับรุ่นเล็กได้อย่างโดดเด่น ทำให้เขาก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ ในปี 2011 ซึ่งเขาอายุได้เพียง 19 ปีเท่านั้น แถมในนัดเดบิวต์กับชุดใหญ่นั้น เขาต้องเจอกับทีมแข็งแกร่งอย่างอาร์เจนติน่า แต่ผลการแข่งขันกลับจบละที่เสมอกันไปที่ 0 ประตูต่อ 0

ประวัติคาเซมิโร่

แชมป์แรกกับทีมชาติชุดใหญ่ เกิดขึ้นในปี 2019 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในขุมกำลังของทัพเซเลเซา ชุดที่ได้แชมป์ โคปา อเมริกา มาครอง ถือเป็นการได้แชมป์ในรอบหลายปีของทีมชาติบราซิล หลังจากที่พวกเขานั้นห่างหายและตกจากบัลลังก์แชมป์ไปนาน โดยในนัดชิงชนะเลิศพวกเขาสามารถเอาชนะทีมชาติ เปรู ไปได้ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 1 ถือเป็นการตอกย้ำกับฝีมือของแข้งจอมโหดรายนี้ กองกลางของทัพบราซิลแถบจะขาดเขาไปไม่ได้เลยทีเดียว พร้อมทั้งยังต่อเนื่องติดทีมชาติไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ ประเทศกาตาร์

ผลงานส่วนตัวของ คาเซมิโร่

เซาเปาโล

  • โคปา ซูดาเมริคาน่า 2012

เรอัล มาดริด

  • ลา ลีกา 2016-17, 2019-20, 2021-22
  • โกปา เดล เรย์ 2013-14
  • สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 2017, 2019-20, 2021-22
  • ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013-14, 2015-16, 2016-17, 2017-18, 2021-22
  • ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2016, 2017, 2022
  • ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2016, 2017, 2018

ทีมชาติบราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี

  • ศึกชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ 2009

ทีมชาติบราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี

  • ฟุตบอลโลก : 2011
  • ศึกชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ : 2011

ทีมชาติบราซิล

  • โคปา อเมริกา 2019

ติดตาม : ผลบอลสด
เพิ่มเติม : ประวัตินักกีฬา
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง :
ประวัติลิซานโดร มาร์ติเนซ

โพสต์ล่าสุด